บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) เข้ารับมอบประกาศนียบัตรการรับรองระบบมาตรฐาน ISO 14064-1:2018

Screenshot 2023-06-19 110013

คุณเย็บ ซิน หรู (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายบัญชีและการเงินได้เข้ารับมอบประกาศนียบัตรการรับรองระบบมาตรฐาน ISO 14064-1:2018 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลด้านการทวนสอบการวัดปริมาณและการรายงานผลการปลดปล่อยและลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกในระดับองค์กร จากคุณประวาลทอง ทองใหญ่ ณ อยุธยา (ซ้าย) ผู้จัดการฝ่ายรับรองระบบมาตรฐาน บริษัท บูโร เวอริทัส เซอทิฟิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา

โดยบริษัทฯ ได้เริ่มจัดทำและเปิดเผยข้อมูลปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นครั้งแรกในปี 2565 และได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล ISO 14064-1:2018 เป็นบริษัทรายแรกๆ ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม อันนำไปสู่การกำหนดแนวทางการบริหารจัดการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงาน โดยให้สอดคล้องกับเจตจำนงค์ของประเทศในการเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutralilty) ในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี ค.ศ. 2065  ทั้งนี้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่น และการตอบรับความต้องการของลูกค้าจากหลากหลายภูมิภาคอีกด้วย

การได้รับการรับรองระบบมาตรฐาน ISO 14064-1:2018 นี้ ถือเป็นการตอกย้ำเจตนารมณ์ของบริษัทฯ ในการให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมและความมุ่งมั่นในการควบคุมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร รวมถึงการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ตามเป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนของบริษัทฯ ในปี ค.ศ. 2048

บทความอื่นๆ

การประกาศความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5

วันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2568 นายเย็บ ซู ชวน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีและเข้าร่วมงานแถลงข่าวในหัวข้อ “การประกาศความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5”

อาปิโก ไฮเทค ติดอันดับ 1 ใน 500 บริษัทชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยนิตยสาร Fortune ประจำปี 2568

บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ที่ลำดับ 335 ในการจัดอันดับ Fortune Southeast Asia 500 ประจำปี 2568 ต่อเนื่องจากลำดับที่ 303 ในปี 2567 การจัดอันดับนี้คัดเลือกบริษัทที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาค โดยพิจารณาจากรายได้และความโดดเด่นทางธุรกิจ