บทความที่เกี่ยวข้อง

อาปิโก ไฮเทคฯ จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564

บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 ณ โรงแรม อมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา โดยได้ดำเนินการจัดประชุมให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามประกาศของกรมควบคุม-โรค กระทรวงสาธารณสุข รวมถึงประกาศจากทางกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยมี นาย เย็บ ซูชวน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย นาย วิเชียร เมฆตระการ และ นายเคนเนต อึ้ง คณะกรรมการบริษัทเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ภายใต้วิถีใหม่ (New Normal) อีกทั้งได้เพิ่มรูปแบบการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ (VDO Conference) ควบคู่ไปด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่คณะกรรมการท่านอื่นและผู้ถือหุ้นในการเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ทั้งนี้ที่ประชุมอนุมัติทุกวาระตามที่คณะกรรมการเสนอ

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน)

ทั้งนี้ บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ยานยนต์รายใหญ่ของประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นในปี 2539 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2545 ซึ่งปัจจุบันรับผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ (OEM Automotive Parts) ได้แก่ ชิ้นส่วนพื้นรถยนต์ เหล็กขวาง ตัวค้ำ ตัวยึด แผ่นเหล็ก และชิ้นส่วนปลีกย่อยอื่นๆ รวมถึงถึงน้ำมันเพื่อจัดส่งให้กับบริษัทผู้ผลิต และประกอบรถยนต์ชั้นนำในประเทศไทย จากนั้น บริษัทฯได้ขยายธุรกิจ การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์มาสู่ชิ้นส่วนพลาสติก ชิ้นส่วนโลหะตีอัดขึ้นรูป (Forging) และกลึงเจียผิวสำเร็จด้วยเครื่องจักร (Machining) และโครงช่วงล่างรถกระบะ (Frame Components)

บทความอื่นๆ

บริษัทร่วมทุน SODECIA AAPICO ประกาศการลงทุนสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่มูลค่า 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเขตออเรนจ์เบิร์ก รัฐเซาท์แคโรไลนา เพื่อผลิตผลิตโครงแชสซี (Ladder Frame) มาตรฐานระดับโลก คาดว่าจะเกิดการจ้างงานเกือบ 400 ตำแหน่ง โดยพิธีวางศิลาฤกษ์จะจัดขึ้นในวันที่ 8 ธันวาคม 2568

ออเรนจ์เบิร์ก รัฐเซาท์แคโรไลนา — บริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งขึ้นใหม่ SODECIA AAPICO Joint Venture (SODECIA AAPICO JV) มีความยินดีในประกาศการลงทุนมูลค่า 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ…

AAPICO Forging รับโล่ประกาศเกียรติคุณ “องค์กรผู้สนับสนุนการขับเคลื่อนการจัดการก๊าซเรือนกระจกภาคอุตสาหกรรม ภายใต้โครงการการสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC”

เมื่อวันที่ 10 กันยายน 25