บริษัท อาปิโก ไฮเทคฯ ขอเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์และคนในชุมชนโดยผ่านการร่วมบริจาคข้าวกล่อง ให้กับโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา

แม้ว่าพิษโควิด 19 จะกระทบถึงผลประกอบการของบริษัท แต่ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่ความเป็นเลิศบนพื้นฐานความสุข 4 ประการ ทั้งความสุขของลูกค้า ความสุขของพนักงาน ความสุขของผู้ถือหุ้น และความสุขของสังคม ดังนั้นนอกจากบริษัทจะให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ของคนในองค์กรแล้ว บริษัทอาปิโก ไฮเทคจึงขอเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์และคนในชุมชนโดยผ่านการร่วมบริจาคข้าวกล่องจำนวน 585 กล่อง ให้กับโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้หากสถานการณ์ในประเทศแย่ลงอีกครั้ง ทางบริษัทฯ ก็พร้อมประเมินสถานการณ์เพื่อขยายพื้นที่การช่วยเหลือต่อไป

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน)

ทั้งนี้ บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ยานยนต์รายใหญ่ของประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นในปี 2539 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2545 ซึ่งปัจจุบันรับผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ (OEM Automotive Parts) ได้แก่ ชิ้นส่วนพื้นรถยนต์ เหล็กขวาง ตัวค้ำ ตัวยึด แผ่นเหล็ก และชิ้นส่วนปลีกย่อยอื่นๆ รวมถึงถึงน้ำมันเพื่อจัดส่งให้กับบริษัทผู้ผลิต และประกอบรถยนต์ชั้นนำในประเทศไทย จากนั้น บริษัทฯได้ขยายธุรกิจ การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์มาสู่ชิ้นส่วนพลาสติก ชิ้นส่วนโลหะตีอัดขึ้นรูป (Forging) และกลึงเจียผิวสำเร็จด้วยเครื่องจักร (Machining) และโครงช่วงล่างรถกระบะ (Frame Components)

บทความอื่นๆ

การประกาศความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5

วันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2568 นายเย็บ ซู ชวน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีและเข้าร่วมงานแถลงข่าวในหัวข้อ “การประกาศความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5”

อาปิโก ไฮเทค ติดอันดับ 1 ใน 500 บริษัทชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยนิตยสาร Fortune ประจำปี 2568

บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ที่ลำดับ 335 ในการจัดอันดับ Fortune Southeast Asia 500 ประจำปี 2568 ต่อเนื่องจากลำดับที่ 303 ในปี 2567 การจัดอันดับนี้คัดเลือกบริษัทที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาค โดยพิจารณาจากรายได้และความโดดเด่นทางธุรกิจ